วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2551




พระครูวิทิตวรเวช เจ้าอาวาสวัดท่าราบ อำเภอบางแพ และเจ้าคณะตำบลบางแพหัวโพ ท่านเป็นผู้มีภูมิความรู้ด้านการอนุรักษ์ยาสมุนไพรแบบโบราณ รอบกุฏิและวัดล้วนเต็มไปด้วยต้นสมุนไพรที่ใคร ๆ สามารถมาศึกษาค้นคว้าหาความรู้ได้ ท่านได้ปลูกสมุนไพรไม้น้อยกว่า ๓๐๐ ชนิด ศึกษาพืชสมุนไพรที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติพร้อมเปิดตำราดูสรรพคุณแต่ละชนิด แล้วเริ่มรักษาโรคให้ประชาชนอย่างง่าย ๆ ก่อน เช่น เป็นแผล ฝี ปวดท้อง ต่อมทอลซิลอักเสบ ฯลฯ ต่อมาท่านพบว่ายาสมุนไพรยังสามารถรักษาโรคได้อีกหลายอย่างจากตำรายาแพทย์แผยโบราณ ท่านจึงรับรักษาโรคโดยไม่คิดค่ารักษาแต่อย่างใด นับว่าท่านเป็นนักภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีความสามารถเด่น และเป็นที่เคารพนับถือของชุมชนท้องถิ่นอย่างกว้างขวาง โรคที่สามารถรักษาให้หายได้ร้อยละ ๙๐ ได้แก่ โรคหือ - หอบ โรคไซนัส โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคกาฬ โรคประโดง โรคต่อมลูกหมากอักเสบ โรคตับ - ท้องมาน เป็นต้น นอกจากการรับรักษาโรคด้วยยาสมุนไพรแล้ว ท่านยังได้จัดพิมพ์หนังสือยาสมุนไพรแจกให้กับประชาชนที่มาทำบุญที่วัดท่าราบทุกปี ๆ ละ ๒๐,๐๐๐ เล่ม เพื่อเป็นวิทยาทานสำหรับผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกล โดยท่านทำมาแล้วเป็นเวลากว่า ๑๓ ปี และปัจจุบันวัดท่าราบยังเป็นที่ตั้งโรงเรียนแพทย์แผนโบราณในชนบท และชมรมอนุรักษ์สมุนไพร โดยท่านเป็นผู้อำนวยการและประธานชมรม ด้วยประสบการณ์ของท่าน ท่านจึงได้รับเกียรติให้เขียนตอบปัญหายาในหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ เช่น คอลัมน์ยากลางบ้าน หนังสือพิมพ์มติชน คอลัมน์ตอบปัญหายาสมุนไพร หนังสือพิมพ์ไทยเดลี คอลัมน์สารพันปัญหาว่าด้วยการรักษาโรคด้วยยาสมุนไพรและว่าน นิตยสาร ม.ส.ท.มูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์ของวัดสุทัศนเทพวราราม นิตยสารทางเดินของเปรียญธรรมสมาคม วัดสามพระยา บางขุนพรหม กรุงเพทฯ คอลัมน์สารพันปัญหารักษาโรคด้วยยาสมุนไพร นิตยสารเปรียญธรรมสมาคม และคอลัมน์ปัญหาว่าด้วยการรักษาโรคด้วยยาสมุนไพร หนังสือพิมพ์ภูมิภาค ก้าวหน้า พระครูวิทิตวรเวชได้รับการเชิดชูเกียรติให้เป็นนักอนุรักษ์สมุนไพรคนสำคัญในวงการแพทย์แผนโบราณ กล่าวคือ ได้รับพระราชทานโล่เป็นเกียรติในฐานะสนับสนุนหลักสูตรพิเศษโครงการพระราชดำริสวนป่าสมุนไพร ได้รับวุฒิบัตรในการอบรมวิทยากรโครงการตามพระราชดำริสวนป่าสมุนไพร ได้รับเกียรติบัตรในการเสียสละไปเป็นครูสอนปริยัติธรรม ได้รับเข็มเครื่องหมายมูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์ ในการเสียสละเวลาเขียนแนะนำ ยาสมุนไพรในนิตยสาร ม.ส.ท. โดยไม่คิดค่าเขียน ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๕ ถึงปัจจุบันทุกเดือน เป็นเข็มทองลงยาประดับเพชร และได้รับเกียรติบัตรของกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์แผนไทย

ไม่มีความคิดเห็น: